Kindness แพลนต์เบสจากพืช
Kindness แพลนต์เบสจากพืช โลกที่มีการแสวงหาความสุขต้องไม่เป็นภาระของผู้อื่นอาหารมังสวิรัติ เป็นคำที่อยู่กับโลกมาช้านาน รวมถึงในประเทศไทยที่ในอดีต ในปัจจุบันที่เห็นได้ชัดว่ามีร้านอาหารมังสวิรัติอยู่ทั่วประเทศ เป็นอีกทางเลือกให้กับคนที่รักสุขภาพและมีการพัฒนาอาหารมังสวิรัติขึ้นในหลายรูปแบบ แม้กระทั่ง Plant Base หรือเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืช ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น อีกทั้งยังมีการพัฒนาคุณภาพจนสามารถมีสารอาหารและคุณภาพทัดเทียมกับเนื้อสัตว์จริง
“ไอเดียของเราคือ “การลด” แรงจูงใจสำคัญคือการลดการฆ่าสัตว์ และหาโปรตีนอื่นมาทดแทน ทางที่ดีที่สุดในความคิดของพวกเรา ที่ได้จากการทำวิจัยก็คือ โปรตีนจากพืช โดยหลักๆ แล้ว เราพยายามจะทำให้รู้ได้ว่า จะทำโปรตีนจากพืชที่มีรสชาติดี ที่มีราคาสมเหตุสมผลได้อย่างไร และเป็นอีกทางเลือกให้ผู้คนที่อยากเปลี่ยนจากกินเนื้อสัตว์มากินโปรตีนจากพืชได้ง่ายขึ้น
ตอนนี้เราก็มีเนื้อเปปเปอโรนีจากพืช เต้าหู้ปลาจากพืช ที่เป็นสินค้าหลักของเรา”Kindness บริษัทสตาร์ทอัปเกี่ยวกับเนื้อโปรตีนจากพืช โดยมีคุณไมค์ หยาง ชาวไต้หวัน หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท และพื้นเพที่เขาได้ใช้ชีวิตแบบมังสวิรัติมานานถึง 25 ปี ได้เล่าถึงปณิธานของการสร้างธุรกิจนี้ขึ้นมา“บริษัท Kindness นั้น เราทำเพื่อความ Kindness (เมตตา, ความดี) จะไม่ฆ่าชำแหละเลยถ้าไม่จำเป็น ต่อมาเราก็ค้นพบว่า ความ Kindness นี้เอง ที่ทำให้เราได้โบนัสชีวิตดีๆ คือ การที่เรามีสุขภาพดี และทำให้สภาพอากาศสิ่งแวดล้อมดีขึ้น
Kindness เป็นทางเลือกหนึ่ง ทางเลือกที่จะช่วยขยายการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้กับโลกใบนี้ และจะเป็นโลกที่มีการแสวงหาความสุข ต้องไม่เป็นการภาระของผู้อื่นอีกต่อไป”การทำสินค้าออร์แกนิกเกษตรอินทรีย์นั้น ถือเป็นความท้าทายในธุรกิจอาหาร ที่เปรียบเสมือนมวยด่านชั้นยอด และถ้าใครสามารถผ่านการพิสูจน์ตรงนี้ ก็แทบจะถือได้ว่าเป็นหนึ่งในยุทธจักรนี้ได้สบาย และ Kindness ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พวกเขาสามารถทำได้
“พวกเราทำงานกันหนักพอสมควร ในช่วง 14 ปีที่ผ่านมา เพื่อนผู้ร่วมก่อตั้งอีกคนเขามีโรงงานผลิต เขาต้องทำทุกวัน ตั้งแต่ผลิต ค้นหาข้อมูล ทำวิจัยในหลายผลิตภัณฑ์ และตอนนี้เราเปลี่ยนจากโรงงานมาเป็นธุรกิจสตาร์ทอัป ที่ขายข้อมูลและวิธีทำ เราไม่มีเครื่องจักร ไม่มีออฟฟิศ เราทำงานกันแบบที่ไหนก็ได้ ซึ่งเราเน้นขายวิธีทำและข้อมูล ซึ่งง่ายและสะดวกมาก เหมือนขายซอฟต์แวร์ ซึ่งตอนนี้ก็ทำมาได้ 1 ปีแล้ว ซึ่งผมไม่มีปัญหาด้านการขายสินค้าออร์แกนิกเลย เมื่อผมไปช้อปปิ้งในซูเปอร์มาร์เก็ต ผมก็มักจะเจอสินค้าออร์แกนิกเสมอ เท่ากับว่ามันมีพื้นที่ให้สินค้าประเภทนี้ ผมเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพ ที่จะช่วยให้เกิดการหมุนเวียนในการใช้สินค้าประเภทนี้”
นอกเหนือจากการสร้างธุรกิจแล้ว ความคิดที่เป็นแก่นหลักในการสร้าง Kindness ถือเป็นเรื่องที่ชี้ถึงเจตนาอันดีของบริษัทได้เป็นอย่างดี“จะเอาเนื้อสัตว์คุณต้องทำการฆ่ามันใช่มั้ย? ผมไม่เชื่อในเรื่องของการฆ่าสัตว์เพื่อความสุข ผู้คนล้วนกินเพื่อให้มีความสุขใช่มั้ย? คุณมีความสุขตอนกิน เอ็นจอยกับอาหารจานโปรด แต่การจะได้เนื้อมา คุณก็ต้องฆ่าสัตว์ใช่มั้ย ผมไม่คิดว่าการทำแบบนั้นจะมีความสุขได้เลย เมื่อคุณออกไปต่างประเทศ ไปแถบประเทศตะวันตก ทั้งในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ หรือใกล้ ๆ ประเทศไทยอย่างออสเตรเลีย สินค้าออร์แกนิกเป็นที่นิยมมาก ประเทศไทยอาจจะตามหลังประเทศเหล่านั้นสัก 5-10 ปี ผมอยู่ไทยมา 9 ปีแล้ว ผมคิดว่าผมอยากมอบบางสิ่งให้กับประเทศไทย ผมอยากแบ่งปันความรู้ให้กับคนไทย”“ถ้าคุณสนใจที่จะทำสินค้าออร์แกนิกเกษตรอินทรีย์ ผมว่านี่คือโอกาสที่ดีมากๆ เพราะผู้คนเริ่มสนใจในวิถีทางใหม่ๆ แน่นอนว่ามันยากในช่วงแรกเริ่ม ส่วนแบ่งตลาดอาจจะยังเล็กอยู่ แต่มันมีอนาคตแน่นอน ตลาดสินค้าออร์แกนิกเกษตรอินทรีย์จะเติบโตแน่นอน กลุ่มคนรวยในประเทศไทยก็เริ่มสนใจสินค้าออร์แกนิกบ้างแล้ว ยิ่งในกลุ่มเด็กรุ่นใหม่ ๆ ก็รู้จักสินค้าออร์แกนิกกันมากมาย ผมขอยกตัวอย่างหนึ่งละกัน ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง เขาขับรถปอร์เช่ ราคาคันละ 15 ล้านบาท เมื่อเขาไปช้อปปิ้ง เขาเลือกซื้ออาหารในร้านโชว์ห่วย ที่มีผักกับเนื้อสัตว์ในราคาที่ถูกมากๆ แต่เมื่อเขาขับปอร์เช่เข้าไปเติมน้ำมันในปั้ม เขากลับเลือกน้ำมันเกรดพรีเมี่ยมให้กับรถปอร์เช่ของเขา แค่นี้พอจะเห็นภาพแล้วใช่มั้ยครับ?”
ใครรู้ตัวว่าเป็นสายออร์แกนิก TOCA ขอชวนเข้า #OrganicSociety มาร่วมแบ่งปัน แลกเปลี่ยนความรู้ ร่วมเวิร์คช้อป ขยายกลุ่มคนนักสังคมอินทรีย์ด้วยกันที่นี่ —> https://bit.ly/TOCAorganicsociety